[Donjuan] ผู้ชายต้องกล้าเริ่มก่อน

เกิดเป็นชายต้องกล้าจีบสาวก่อน

เกิดเป็นชายต้องกล้าจีบสาวก่อน

ผมว่าเราคงเคยรู้สึกเหมือนกันนะครับว่า ทําไมMANต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสมอในเรื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ทําไมสาวจะเริ่มก่อนบ้างไม่ได้หรือไง? (หญิงเริ่มก่อนมีบ้างแต่น้อยมาก)

เคยคิดกันใช่มั้ยครับว่า มันคงจะดีนะถ้าสาวกับMANมาแลกเลี่ยนบทบาทกัน ให้สาวมาเป็นฝ่ายรุกในทุกเรื่อง


ลองให้พวกเธอมาคอยตามจีบเราบ้าง ให้ลองมาขอเบอร์พวกเราก่อนบ้าง คงจะสนุกดีนะครับ ว่ามั้ย? 555

แต่ความจริงบังเอิญว่ามันเป็นไปไม่ได้หนะสิครับ ซึ่งตรงจุดนี้MANหลายคนยังไม่เข้าใจ และก็มาบ่นเสมอๆ ว่า 
ทําไมความสัมพันธ์ของเค้าและเธอไม่คืบหน้าเลย? ทําไมเค้าต้องเริ่มก่อนเสมอๆ? พอนานๆเข้า MANพวกนี้ก็จะเริ่ม
ขี้เกียจที่จะตามจีบหญิง ในที่สุดก็จะเลิกล้มความตั้งใจ และก็จะหาสาวคู่กายไม่ได้

พอเวลาผ่านไปอีกหน่อย ก็จะกลับมาคิดอีกว่า "เฮ้ย! ทําไงดีวะ ยังหาแฟนไม่ได้เลย ช้าไม่ได้แล้ว ต้องจีบหญิงแล้ว
คราวนี้ต้องทําให้ได้" พอเริ่มกลับมาจีบหญิงได้อีกสักพัก ก็รอที่จะให้สาวเป็นฝ่ายรุกเหมือนเดิม รอให้เธอพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น

รอให้เธอเป็นคนเริ่ม และทุกอย่างก็จะไม่ดีขึ้นเพราะสาวจะไม่เป็นฝ่ายรุก ในเมื่อไม่มีใครเป็นฝ่ายรุก ความสัมพันธ์ก็หยุดชะงัก

จากนั้นก็กลับมาคิดแบบเดิมอีก

"ทําไมความสัมพันธ์ของเรากับเธอมันไม่คืบหน้าเลย?"


ผมว่าถ้าขี้เกียจที่จะเป็นผ่ายรุกก็หยุดบ่นและก็เลิกจีบสาวไปเลยดีกว่า
พวกที่มาบ่นแบบนี้แสดงว่ายังไม่เข้าใจพื้นฐานการจีบสาวที่สําคัญสุดๆๆๆๆๆ
ไม่ได้หันมามองโลกความเป็นจริง ครับ เราต้องมาทําความเข้าใจก่อนว่าในการจีบสาว

MANต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบในการสานความสัมพันธ์ MANต้องเริ่มก่อนเสมอ


คุณอาจจะคิดว่า "โอ้ย! ทําไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ ไม่ยุติธรรมเลย มาผลักความรับผิดชอบให้MANฝ่ายเดียว"

ใช่ครับ มันไม่ยุติธรรมหรอก สาวจะไม่ยอมเป็นฝ่ายรุกหรอก เพราะพวกเธอจะไม่ยอมเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับการโดนปฎิเสธเด็ดขาด

พวกเธอจะให้ความเสี่ยงนี้ตกอยู่กับMANทั้งหมด ไม่เป็นไรสาวเป็นพวก sensitive ยอมพวกเธอหน่อยละกัน



เอาล่ะ คราวนี้ ผมมีข้อดีและข้อเสียของการที่MANต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนจะบอก
ข้อเสียก็คือ มันทําให้งานของเรามากขึ้นและยุ่งยาก ข้อดีก็คือ เราเป็นคนเลือกว่าเราอยากจะสร้างความสัมพันธ์
กับใครหรือไม่? เราเลือกว่าอยากจะมีความสัมพันธ์กับใครแค่ไหน? เราเป็นคนที่มีอํานาจในการเลือก


สมมุติว่าคุณเป็นสาว 99.99% ในเวลาที่คุณเจอหนุ่มที่คุณอยากจะรู้จัก คุณไม่สามารถเข้าไปขอเบอร์ได้

เพราะคุณเป็นสาว คุณเริ่มก่อนไม่ได้ อย่างดีที่สุดที่คุณจะทําได้ก็คือพยายามส่งสายตาสิ่อให้รู้ว่า


"ช่วยเข้ามาขอเบอร์ชั้นหน่อยนะได้โปรดดด นะนะนะนะนะ ขอร้อง"

แล้วถ้าคุณเกิดมาเป็นสาวที่อาจจะบกพร่องทางหน้าตาหรือรูปร่าง คุณก็เสร็จ ไม่มีใครเข้ามาจีบแน่นอน

คุณจะไปเริ่มจีบใครก็ยาก คุณไม่มีอํานาจในการเลือก

หรืออย่างคุณกําลังคบกับชายหนุ่มอยู่คนนึง คุณปิ๊งแบบสุดๆๆๆๆ คุณอยากจูบเค้ามาก แต่คุณเริ่มก่อนไม่ได้
เพราะคุณเป็นสาว (อีกแล้ว) อย่างดีที่สุดที่คุณจะทําได้ก็คือส่งกระแสจิตไปบอกให้เค้ารู้ตัวว่า


"ชั้นพร้อมที่จะจูบแล้วนะ ที่รัก" 555


ครับ แต่ถ้าคุณเป็นMANคุณจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆเหล่านี้เลย เพราะคุณมีสิทธ์ที่จะทําหรือไม่ก็ได้
คุณมีอํานาจในการเลือก

บวก ลบ คุณ หาร ข้อดี ข้อเสีย เรียบร้อยแล้ว จะรู้ว่า การที่เราต้องเป็นคนเริ่มสานความสัมพันธ์ในทุกๆเรื่องเป็นสิ่งที่ดี


เมื่อเจอสาว MANต้องเริ่มเข้าไปคุยกับเธอในครั้งแรก MANต้องเป็นคนขอเบอร์โทรศัพท์เธอ จากนั้นMANต้องเป็นฝ่ายเริ่มโทรไปคุย

MANต้องพยายามทําให้การคุยเป็นไปได้ด้วยดี คุยเรื่องที่เธอสนใจ เริ่มสร้างความสนิทสนม 
MANต้องเป็นคนชวนเธอออกไปเดทในครั้งแรก บอกให้เธอรู้ว่าจะไปที่ไหน ไปทําอะไร 
เมือออกเดทMANต้องเป็นคนสร้างความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น ทําให้เธอหัวเราะ สนุกสนาน ทําให้เธอมีความสุข
MANต้องเป็นคนชวนเธอไปออกเดทครั้งที่สอง สาม สี่ ห้า.....และเมื่อความสัมพันธ์เป็นไปได้ด้วยดี MANต้องเป็นคนเริ่มจับมือเธอ 
เป็นคนเริ่มโอบกอดเธอ จากนั้นMANต้องเป็นคนเริ่มจูบเธอ และเมื่อความสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น MANต้องเป็นคนเริ่ม...เธอ(เอ่อ เซ็นเซอร์ครับ อิอิ)

ทุกอย่าง!!!


MANต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทุกอย่าง สาวไม่ต้องทําอะไรทั้งสิ้น พวกเธอแค่คอยตอบสนองต่อสิ่งที่เราเริ่มเท่านั้นเอง
Read More

[Donjuan] ทำตัวตามสบาย

ทำตัวตามสบายในการจีบสาว

ทำตัวตามสบายในการจีบสาว


อารมณ์ ความfeelingของคนเรามีผลกระทบมาจากคนอื่นๆรอบข้าง

เคยเห็นเด็กตัวเล็กๆที่หกล้มมั้ยครับ? วินาทีที่ล้มลงไปกับพื้นเด็กจะทําหน้างงๆ ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เด็กหันกลับมามองพ่อแม่ตัวเอง ถ้าพ่อแม่มีสีหน้ากังวล แถมพูดด้วยความตกใจ

"ว้าย! ลูกเจ็บมากมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า!" เด็กจะเริ่มร้องไห้โดยอัตโนมัติ


แต่ว่าถ้าเด็กหันมาพ่อแม่ไม่ได้มีสีหน้าตกใจ ยิ้ม หัวเราะและพูดว่า

"ไม่เป็นไรลูก นิดเดียว คนเก่ง ไม่เจ็บน้า ไม่เจ็บ" เด็กมักจะไม่ร้อง บางครั้งอาจจะหัวเราะตามพ่อแม่ด้วยซํา



อีกตัวอย่างนึง

มีการศึกษาทางจิตวิทยาครั้งนึงที่ต่างประเทศชื่อว่า The Asch's Conformity Study 
การวิจัยครั้งนี้นํากลุ่มคนมาประมาณ 20-30 คน โดยจะมีเส้นตรงตัวอย่างหนึ่งเส้น
และเส้นตรงที่ใช้เปรียบเทียบอีก 3 เส้น จากนั้นจะให้แต่ละคนเลือกว่าเส้นไหนที่มีความยาว
เท่ากับเส้นตัวอย่าง

แต่ไม่ใช่แค่นั้น ผู้ที่จะต้องตอบเป็นคนแรกๆ ได้ถูกนัดแนะว่าให้เลือกตอบเส้นที่ผิด โดยไม่ให้กลุ่มคน
ที่เหลือรู้

เมื่อการทดลองเริ่มขึ้น 4-5 คนแรกก็แกล้งตอบผิดตามที่ได้ตกลงไว้ และน่าแปลกใจมากครับ? คนที่เหลือส่วนใหญ่
ก็เลือกที่จะตอบเหมือนกับ 4-5 คนแรกที่ตอบผิดด้วย มีไม่กี่คนที่เลือกตอบต่างออกไป

ที่คนส่วนใหญ่ตอบผิดเพราะถูกผลกระทบจากคําตอบของ 4-5 คนแรก
พวกเค้าเริ่มสงสัยว่าอาจจะมองบางอย่างผิดพลาดไป เค้าสงสัยตัวเองเพราะทุกๆคนดูเหมือนว่า
จะได้ข้อสรุปไม่เหมือนที่เค้าคิดไว้ จนในที่สุดแรงกดดันจากคําตอบที่ไม่เหมือนของคนอื่นๆนั้น
ได้เข้ามามีอิทธิพลเหนือความfeelingของเค้าเอง ทําให้เค้าต้องเปลี่ยนคําตอบ


มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่การกระทํา ความfeeling ความคิดของคนอื่นมีผลกระทบต่อความfeeling ความคิดของเรา

ในการจีบสาวนั้น แม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมความfeelingความคิดของเธอได้ทั้งหมด แต่ความคิด ความfeelingเราก็
มีผลกระทบต่อความfeelingของเธอเช่นกัน

ถ้าคุณพยายามจะจับมือเธอ แต่คุณทําด้วยความลุกลี้ลุกลน ประหม่า เธอจะfeelingอึดอัด หวาดระแวง เธอจะหนีห่างออกไป 
เพราะเธอfeelingว่ามันไม่ถูกต้อง ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณสบายๆ ค่อยๆเอื้อมไปจับมือเธออย่างช้าๆ นุ่มนวล เธอจะfeelingว่ามันน่าตื่นเต้น 
ไม่ใช่สิ่งที่น่าอึดอัด น่ากลัว

หรือว่าถ้าคุณเจอเธอครั้งแรก เดินเข้าไปพูดคุย ขอเบอร์อย่างมั่นใจ คุณเข้าไปด้วยความfeelingที่ว่าไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งคุณได้
โลกทั้งโลกเป็นของคุณ คุณfeelingว่าการจีบสาวนี่มันช่างเป็นเรื่องที่สนุกจริงๆๆๆๆๆ

เมื่อนั้นแหละครับที่เธอจะfeelingดีกับคุณ เพราะเวลาคุณสนุกที่จะจีบเธอ รู้มั้ยครับว่ามันมีโอกาสสูงที่เธอจะfeelingสนุกตามไปด้วย
เมื่อคุณแสดงออกถึงความมั่นใจในการขอเบอร์เธอ เมื่อนั้นแหละที่เธอจะให้เบอร์คุณได้อย่างมั่นใจ เพราะมันเหมือนกับคุณสื่อ
ให้เธอรู้ว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล ผมกําลังแค่อยากจะแบ่งปันความสุขให้คุณเท่านั้น คุณจะดีใจถ้าเรารู้จักกัน"

เธอเซนส์ได้จากความมั่นใจ ความเชื่อมั่นในตัวที่คุณส่งออกมาทําให้เธอfeelingมั่นใจตามไปด้วย

เอาล่ะ ลองให้ nice guy ที่กําลังจะเป็น dj นําเทคนิคนี้ไปใช้ดูซิ

สถานที่ : ร้านอาหารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุง

nice guy ที่กําลังจะเป็น dj นั่งทานอาหารอยู่กับเพื่อนๆ AFC ทันใดนั้นสายตาเหลือบไปเห็นสาวน่ารัก 2 คน

เดินเข้ามาในร้าน พวกเธอเดินตรงมาทางโต๊ะที่พวกเค้านั่งอยู่

AFC สะกิดบอกเพื่อนๆ "โห ดูดิ โคตรน่ารักเลยว่ะ โดยเฉพาะน้องเสื้อชมพู สุดยอดดดด มานั่งข้างเราด้วย ใครก็ได้ไปเข้าไปคุยดิ๊"

nice guy ที่กําลังจะเป็น dj พูด "ถ้ามึงชอบ มึงก็เข้าไปจีบดิ ถ้ามึงเอาแต่ดูอยู่อย่างนี้ มึงไม่ได้แอ้มว่ะ"

AFC "ให้กูเข้าไปจีบเนี่ยนะ!!! แค่สบตากูยังจะปอดเลย นี่มึงเล่นให้กูเข้าไปจีบ ไม่ไหวว่ะ ตื่นเต้น"


เวลาผ่านไปสักพักนึงน้องเสื้อชมพูหันมาทางโต๊ะของเค้า nice guy ที่กําลังจะเป็น dj หันไปสบตากับเธอ
เค้ารู้ว่าวินาทีนี้เค้าควรยิ้มให้เธอ เค้าพยายามฉีกยิ้มออกมา แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า!!!

โอว โนววว เค้าไม่ได้ยิ้มให้เธอ เหมือนมีอะไรบางอย่างมาห้ามเค้าไว้ nice guy เริ่มหัวเสียนิดหน่อย แต่เค้าบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร ผิดพลาดนิดหน่อยเท่านั้น
และเค้าก็รวบรวมความมั่นใจอีกครั้ง

"โอเค ต้องมั่นใจ ใช่ๆ เพราะอารมณ์เรามีผลต่ออารมณ์ของเธอ ทําตัวให้สนุก เธอจะได้สนุกตามด้วย อย่าลืม ต้องมั่นใจๆๆๆ"


ความกล้า ความมั่นใจเริ่มมากขึ้น เค้าเริ่มคิดถึงวิธีเปิดฉากคุยกับเธอ

"เดินเข้าไปคุยกับเธอที่โต๊ะเลยดีมั้ย? เธอจะคิดว่าเราบ้ารึเปล่า?"

"หรือจะรอให้เธอออกจากร้านก่อน ถึงค่อยเข้าไปคุยดี?"

"หรือจะรอสบตา ยิ้มอีกครั้งก่อนเข้าไปคุย"

"ถ้าเดินเข้าไปคุยแล้ว โต๊ะอื่นๆที่นั่งอยู่ จะคิดยังไงนะ"

"จะพูดอะไรเป็นอย่างแรกดีถึงจะ work"


nice guy คิดไปร้อยแปด พันเก้า



ในที่สุด เพื่อนๆ AFC เริ่มลุกเดินออกจากร้าน nice guy ลุกขึ้นและมองมาทางโต๊ะสาวสวย เค้าพยายามยิ้มให้แต่ว่าเธอไม่ได้หันมา
เค้าเริ่มfeelingกังวลเล็กน้อยๆ ว่าเธออาจจะไม่ได้สนใจเค้าก็เป็นได้

เค้ากับเพื่อนเดินห่างออกมาๆๆๆๆๆๆ จนเกือบจะถึงประตูทางออก
"ไม่ได้การ โอกาสสุดท้ายแล้วต้องเข้าไปคุยกับเธอ เดี๋ยวนี้!!!"


nice guy เดินกลับไปที่โต๊ะสาวสวย เค้าพยายามเข้าไปคุยอย่าง มั่นใจ แต่ทว่าผลลัพธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคาดเอาไว้!!!


nice guy ถูกปฎิเสธ เดินกลับออกมาอย่างผิดหวัง

"ทําไมว่ะ! เข้าไปคุยอย่างมั่นใจ เธอไม่เห็นจะfeelingเลยว่าเรามั่นใจ เทคนิคนี้ไม่ได้ผลนี่หว่า "


นั่นสิครับ เป็นเพราะอะไรกัน ทําไมไม่ได้ผล?
ไหน ลองเรียก donjuan เข้ามาหน่อยสิ

Mr. Donjuan เดินเข้ามาพร้อมกับพูดว่า

"คุณ nice guy คุณมาถูกทางแล้วครับ คุณมีความกล้า เพียงแต่ว่ายังมีสิ่งที่ขาดหายไป"

nice guy: "อะไรหรือครับที่หายไป ผมว่าผมก็ใช้เทคนิคจีบสาวของ dj แล้วนะครับ"


dj: "คุณคิดว่าคุณใช้เทคนิค dj แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ คุณยังเป็น nice guy ที่

เอาหน้ากากของ dj มาสวมไว้เท่านั้นเอง!!! "
nice guy "คือ..ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดมาครับ"


dj "ไม่เข้าใจเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอถามคุณบางอย่างก็แล้วกัน"


ทําไมตอนแรกที่เธอหันมาสบตากับคุณ คุณไม่ได้ยิ้มกลับไป?
ทําไมก่อนที่คุณจะเข้าไปคุย คุณถึงต้องคิดให้มันวุ่นวายว่าจะเริ่มยังไงดี?
ทําไมคุณถึงคิดขึ้นมาว่าเธออาจจะไม่ได้ชอบคุณก็ได้?

"เอ่อ...ก็...ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ" nice guy เริ่มสับสน



คุณทําอย่างนั้นเพราะว่าคุณใส่ใจกับความfeelingของเธอมากเกินไป คุณยังต้องการและหวังให้เธอมาชอบคุณ
คุณไม่ได้สนใจตัวเอง คุณไปโฟกัสอยู่ที่เธอ!!!

ใช่ครับ คุณพยายามทําตัวให้มั่นใจ สนุกสนานเพราะคุณรู้ว่าอารมณ์ของคุณมีผลกระทบต่ออารมณ์ของเธอ
แต่นั่นก็เป็นการเสแสร้งเพราะลึกๆแล้วคุณก็ยังมีความวิตก คุณยังห่วงผลลัพธ์ว่าเธอจะตอบสนองกลับมาด้วยดีหรือเปล่า

คุณกําลังเอาหน้ากาก dj มาสวมอยู่เพราะคุณสนุกสนาน มั่นใจแค่เปลือกนอก
แต่ภายในคุณเต็มไปด้วยความสับสน กังวล ห่วงผลลัพธ์ ห่วงว่าเธอจะคิดยังไง

เวลาจีบสาวสวย dj ไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์ ไม่ได้กังวลว่าเธอจะคิดยังไงกับเค้า
เค้าไม่ได้จีบสาวเพราะว่าเค้าต้องการจะจีบให้ติด
แต่เค้าจีบสาวเพราะว่ามันทําให้เค้าfeelingดี สนุก เค้าชอบที่จะทํา

พูดง่ายๆ ก็คือ dj เข้าไปจีบสาวก็จริงแต่ว่าจุดสนใจไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้หญิง 
dj สนใจอยู่กับตัวเค้าเอง dj โฟกัสอยู่ที่ตัวเอง



ตัวอย่างเวลาเจอสาวสวย

nice guy จะfeelingว่า "เธอจะชอบเรามั้ย?" (โฟกัสที่ผู้หญิง)

donjuan จะfeelingว่า "เราควรจะชอบเธอดีหรือเปล่า?" (โฟกัสที่ตัวเอง)


nice guy จะfeelingว่า "ถ้าได้ไปเที่ยวกับเธอคงจะมีความสุข" (โฟกัสที่ผู้หญิง)

donjuan จะfeelingว่า "ถ้าเธอไปเที่ยวกับเราเธอจะต้องมีความสุขแน่ๆ" (โฟกัสที่ตัวเอง)


nice guy จะfeelingว่า "เธอคือคนที่เฝ้ารอมานาน" (โฟกัสที่ผู้หญิง)

donjuan จะfeelingว่า "เราเป็นคนที่เธอเฝ้ารอมานาน" (โฟกัสที่ตัวเอง)



เมื่อคุณโฟกัสอยู่ที่ตัวเอง เทคนิคต่างๆ มันจะออกมาจากภายใน ไม่ใช่แค่เปลือกนอก
และเมื่อนั้นแหละที่ความfeelingของเธอจะถูกกระทบโดยความfeelingของคุณ
เพราะเวลาที่คุณมั่นใจ คุณมั่นใจจริงๆ ไม่ใช่การเสแสร้ง
เธอจะfeelingได้เองว่าความมั่นใจคุณนั้นเป็นของจริงไม่ใช่ของปลอมทําเหมือน

ลองคิดดูว่าถ้าคุณไปเจอคนสองคน คนนึงกําลังมีความสุขอย่างแท้จริง
อีกคนกําลังมีความทุกข์แต่พยายามทําหน้าเหมือนว่าเค้ามีความสุข
คุณคิดว่าคุณจะแยกออกมั้ยว่าใครที่กําลังเสแสร้งอยู่? ใครที่มีความสุขจริงๆ?

ได้อยู่แล้ว!!!


ถ้าคุณแคร์ผลลัพธ์ สนใจอยู่ที่เธอ คุณก็แค่กําลังเสแสร้งว่าคุณมั่นใจ คุณยังมีความกังวลอยู่ กลัวว่าเธอจะไม่ชอบ
แต่ถ้าคุณไม่สนใจความfeelingเธอ สนใจอยู่ที่ตัวเอง คุณจะมีความมั่นใจอย่างแท้จริง เพราะคุณก็ไม่ได้กังวลอยู่แล้ว
ว่าเธอจะชอบคุณหรือไม่ คุณแค่ทําสิ่งที่คุณfeelingว่ามันทําให้คุณมีความสุข ก็เท่านั้น


คําถาม : จีบสาวสวยต้องทํายังไงบ้าง?

ผู้คนมากมายตอบ "สนใจความfeelingเธอสิ เธอชอบอะไร เธอต้องการอะไร"
ดอนฮวนตอบ "ไม่ใช่ครับ จีบสาวสวยต้องสนใจอยู่ที่ตัวเอง โฟกัสที่ตัวเอง"
Read More

[Donjuan] มารู้จักกับ infatuation กัน

ความหลงใหลคือจุดอ่อนในการจีบสาว

ความหลงใหลคือจุดอ่อนในการจีบสาว


เคยรู้สึกกันใช่มั้ย เวลาที่เราขอเบอร์สาวมาเป็นจํานวนหนึ่ง ได้คุย
ทําความรู้จักมักคุ้นกับพวกเธอมากขึ้น ไม่นานนัก เราก็จะมานั่งคิดถึงพวกเธอ
มาคิดถึงข้อดี ข้อเสียต่างๆ ของแต่ละคน และเราก็มีแนวโน้มที่จะจัดอันดับความสวย 
ความน่ารักของพวกเธอโดยอัตโนมัติ

"น้องแอนหุ่นดีกว่าน้องฝน"

"น้องเจยิ้มหวาน น่ารักกว่าคนอื่นๆเลย"

"น้องจูน sexy สู้น้องพันช์ไม่ได้"

"เสียงน้องแซนด์หวาน น่ารัก คิกขุที่สุดเลย"

"ชอบนิสัยน้องตาลมากกว่าน้องเปิ้ล"


เราจัดอันดับสาวๆที่เราจีบอยู่ในใจแล้วว่า ใครเป็นเบอร์หนึ่ง ใครเบอร์สอง เบอร์สาม
ใครที่เราชอบมากที่สุด ใครที่เราชอบน้อยที่สุด และในหลายๆครั้งมันเป็นเรื่องที่เรา
แทบจะควบคุมไม่ได้จริงๆ เป็นเรื่องของจิตใต้สํานึก อยู่ดีๆก็รู้สึกขึ้นมา

และทุกครั้งที่เกิดการจัดอันดับเช่นนี้ พนันกันได้เลยว่าเราจะจีบเบอร์หนึ่งไม่ติด
ใช่ ที่เราอาจจะทําให้เบอร์สอง สาม หรือสี่มาชอบเราได้ แต่สําหรับเบอร์หนึ่งมันเหมือนกับว่า
จะพลาดทุกครั้ง เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้

ทําไมจึงเป็นเช่นนี้?


ตอบได้ไม่ยาก ที่เราจีบไม่ติดเพราะว่าเวลาที่เราจัดอันดับความน่ารักของพวกเธอแล้ว
เราจะเกิดความรู้สึกขึ้นมาอย่างนึงกับเธอคนนั้นที่เป็นเบอร์หนึ่งในใจ
เป็นความรู้สึกที่ต่างไปจากสาวคนอื่นๆ และโดยมากแล้วความรู้สึกที่ว่านั้นก็คือ


Infatuation (การหลงใหล พรําเพ้อ ลุ่มหลง)


แปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆก็คือ หลงสาวเบอร์หนึ่งคนนั้นมากเกินไป
เกินกว่าสาวคนอื่นๆ คิดว่าเธอจุติมาจากดาวเคราะห์ดวงอื่นเป็นนางฟ้าที่ไม่ใช่มนุษย์ปกติ ธรรมดา

ผมอยากจะเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ infatuation ที่ผมเคยประสบมาให้ฟัง

มีอยู่ครั้งนึงผมเคยจีบสาวพร้อมกันทีเดียว 4 คน ผมเริ่มทําความรู้จักกับพวกเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
โทรไปคุย ชวนพวกเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน (เอ่อ..ไม่ได้ชวนไปพร้อมกันทีดียว 4 คนนะครับ อย่าเข้าใจผิด หึหึ)

ถ้าพูดถึงเรื่องนิสัยใจคอกันแล้ว แต่ละคนนั้นก็มีข้อดี ข้อเสียต่างๆกันไป 
แต่ว่ามีสาวอยู่คนนึง ที่รูปร่างหน้าตาออกจะ X โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ 
ขอสมมุติว่าเธอชื่อน้องกิ้ฟละกัน น้องกิ้ฟนี่ X กว่าใครทั้งหมดใจผมเลยให้เธอเป็นมือวางอันดับหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และนั่นก็เป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดที่ผู้ชายจะทําได้ในการจีบสาว เพราะผมเริ่มที่จะมี infatuation กับเธอขึ้นมาแล้ว

ผมเริ่มวาดฝันว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าผมกับกิ้ฟได้เป็นแฟนกันจริงๆ โอววววว มันจะดีแค่ไหนนะ
ถ้าได้เดินไปกับเธอตามชายหาด สองคน จูงมือกัน เธอหัวเราะอย่างสดใสในขณะที่เรากําลัง
เล่นนําด้วยกัน เหมือนในมิวสิควิดีโอที่ชอบสอนให้ผู้ชายเป็น AFC กันทั่วประเทศ

ผมวาดฝันไปเองทั้งหมดคนเดียว!!!

มันไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ตอนนั้นเองผมก็ได้เรียนรู้เทคนิค dj มาพอสมควร (ประมาณ 1ปีครึ่ง) แต่ก็ยังไม่อาจห้ามใจตัวเองได้
ในสมองผมนั้นมันมีเสียง infatuation กระซิบบอกผมอยู่ตลอดเวลา

"Nice guy เป็นสิ่งที่ถูกต้องในการจีบเธอ"

"เธอเป็นคนน่ารักมาก อย่าทําให้เธอโกรธ"

"พลาดไม่ได้ๆๆๆๆ คงไม่มีใครดีกว่าเธออีกแล้ว"


อีกร้อยแปดพันเก้า

ในขณะที่เวลาผมจีบสาวอีก 3 คนที่เหลือผมไม่ได้รู้สึกถึงขั้นนี้เลย
ใช่ พวกเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก สดใส ผมชอบพวกเธอแต่ใจผมไม่ได้รู้สึก
หลงละเมอ คลั่งไคล้แม้แต่นิดเดียว นั่นเป็นเพราะว่าพวกเธอไม่ใช่เบอร์หนึ่งของผมนี่

และแล้วผมก็เข้าสู่ระยะสุดท้ายของ nice guy ซินโดรม ผมเริ่มที่จะให้ความสนใจน้องกิ้ฟมากกว่าคนอื่นๆอย่างมาก
ผมปฎิเสธที่จะไปเที่ยวกับสาวคนอื่นๆ ถ้าน้องกิ้ฟโทรมาหาให้ไปรับเธอ ผมไปรับน้องกิ้ฟทุกคืนหลังจากเธอเลิกงาน
ผมเคยไปนั่งรอน้องกิ้ฟใต้หอเธอในตอนเช้า 2 ชั่วโมงเพื่อที่จะไปส่งเธอ 
ผมไปเดทกับน้องกิ้ฟพยายามจะทําให้ตัวเองเป็น dj ผมทําได้แค่เป็น dj ที่เสแสร้งสุดๆ ไม่เป็นธรรมชาติแม้แต่นิดเดียว


ตอนจบของเรื่องนี้ไม่ต้องบอกว่าเป็นยังไง เราทุกคนรู้ๆกันอยู่


แต่ทราบมั้ยคับ? สาวคนที่ผมชอบเป็นอันดับสองที่จีบอยู่กลับมาชอบผม
และในที่สุดเราก็เป็นแฟนกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง นั่นเป็นประสบการณ์ที่ทําให้
ผมได้รู้ซึ้งถึงไอ้เจ้าตัว infatuation ว่ามันทําลายการเป็น dj แค่ไหน

หลังจากนั้นมาเวลาผมจีบสาวคนที่ผมชอบมากที่สุดไม่ติด ผมก็จะมามองย้อนดูข้อผิดพลาดเสมอๆ
และสิ่งที่เหมือนกันหมดทุกครั้งก็คือ

ผมเกิดอาการ infatuation!!!


Infatuation ของเราเองคือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดที่หยุดยั้งไม่ให้เราเป็น dj กับสาวที่เราหมายปอง

Our biggest enemy is our own infatuation.

โอเคๆ ผมเข้าใจๆ ว่าเธอมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พิเศษ เธอสวย น่ารัก หุ่นดี 
แต่ยังไงเราก็ไม่สามารถที่จะให้ไอ้เจ้า infatuation มันมาครอบงําเราได้เพราะ Infatuation
เป็นที่มาของพฤติกรรม nice guy และผู้ชายที่ไม่ได้ตาบอดทั่วโลกต่างก็ประจักษ์แก่สายตามานักต่อนักแล้วว่า
ผู้หญิงสวยมีแนวโน้มที่จะวิ่งหนี Nice Guy เร็วยิ่งกว่านักวิ่งแชมป์โอลิมปิกวิ่ง 100 เมตรเสียอีก


จะหยุดการกระทํา nice guy ต้องหยุด Infatuation ให้ได้!!!


"เวบมาสเตอร์ ถ้างั้นเราควรจะกําจัด infatuation ออกไปให้หมดเลยถึงจะดีที่สุดใช่มั้ยครับ?"


ใช่ครับ เราต้องการกำจัด infatuatin ออกไปแต่ว่าการที่ผมบอกให้กำจัด infatuation ออกไปให้หมดนี้
ไม่ได้หมายความว่าให้คุณเป็นมนุษย์ที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก เฉยชาโดยสิ้นเชิง เห็นสาวๆสวยๆแล้วไม่รู้สึก
อะไรเลย

ผมไม่ต้องการให้คุณเป็นแบบนั้นครับ เพราะการเป็นมนุษย์ที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก มันช่างเป็นเรื่องที่เลวร้ายสิ้นดี
เอาแค่ infatuation อารมณ์หลงใหล อารมณ์เพ้อฝัน อารมณ์หน้ามืดตามัวในการจีบสาวออกไปเท่านั้น
อย่าเอาอารมณ์ ความรู้สึกออกไปทั้งหมด อารมณ์สนุก อารมณ์ตื่นเต้นเวลาจีบสาวสวยผมยังต้องการให้มันคงอยู่

พยายามโฟกัสให้ infatuation มันลดน้อยเรื่อยๆในทุกๆครั้งที่คุณจีบสาวสวย

วิธีแก้ Infatuation

1. อยู่กับปัจจุบัน อย่าเพิ่งไปจินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เวลาคุยกับเธอให้สนใจในการคุยกับเธอเท่านั้น อย่าเพิ่งไปวาดฝัน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เวลาเดทกับเธอ อย่าเพิ่งไปจินตนาการ
ถึงอีก 5 ปีข้างหน้าที่คุณจะได้แต่งงานกับเธอ ไม่เอา!!!
สนใจอยู่แค่การเดท ทําการเดทให้สนุกที่สุดแค่นั้นพอ

2. เมื่อเกิด infatuation ขึ้นเมื่อไหร่ ให้จินตนาการถึงภาพ

เธอในอีก 50 ปี ข้างหน้า ในวันที่เธอเป็นคุณยายแก่ๆ ถือไม้เท้า
เดินไปเดินมาอย่างช้าๆ หน้าตาเหี่ยวย่นไม่เหลือเค้าโครงเดิมในสมัยสาวๆ
แล้วคุณจะรู้ว่าคุณไม่จําเป็นต้องเกิด infatuation แม้แต่น้อย

3. ให้รู้เอาไว้เสมอว่า ไม่ว่าเธอจะเป็นสาวที่สวยเลิศเลอ นางฟ้าแค่ไหน ไม่ว่าหุ่นเธอจะบาดใจ

คุณมากเท่าไหร่ ต่อให้สวยแบบดารา AV ญี่ปุ่น 10 คนมารวมกัน เธอก็ไม่มีทางที่จะมาเติมเต็มชีวิตคุณได้ 
เธอไม่ใช่ผู้วิเศษที่อยู่ดีๆ จะมาเสกให้ชีวิตคุณมีความสุขตลอดกาล ไม่มีทาง!!!


4. เธอผิวขาวเนียนเหรอ? นั่นไม่ใช่ปัญหา

หุ่นเธอเอ็กซ์โคตรๆเหรอ? นั่นไม่ใช่ปัญหา
เธอนิสัยดีอีกด้วย? นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา

ปัญหาก็คือคุณดันเอาความสุขทั้งหมดไปขึ้นอยู่กับเธอ และเมื่อคุณเอาความสุขไปขึ้นอยู่กับเธอเมื่อไหร่
infatuation จะตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย Game over ทันที


อย่าลืมว่าความสุขที่สุดของดอนฮวนมาจากภายในตัวเองเสมอ
ออกไปหาสิ่งที่คุณทําแล้วมีความสุข ออกไปทําสิ่งที่เป็นเป้าหมายของชีวิตของคุณ

คุณชอบร้องเพลงใช่มั้ย? ดี ไปเรียนร้องเพลง ฝึกร้องมันทุกวัน ให้มันเก่งกว่านักร้องอาชีพไปเลย
คุณชอบเล่นฟุตบอลเหรอ? ดีครับ เล่นให้มันสุดๆไปเลย ทําให้เหมือนกับว่าฟุตบอลเป็นแฟนที่คุณรักมากที่สุด
ทําตาม passion ของคุณสร้างความสุขให้กับตัวเองขึ้นมา
Read More